กองทัพเรือจัดพิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ชุดเรือ ต.265 – ต.269 จำนวน 5 ลำ

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ชุดเรือ ต.265 – ต.269 จำนวน 5 ลำ ณ ท่าเรือหมายเลข 5 (LST Ramp) ท่าเรือแหลมเทียน การท่าเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือเอก รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พลเรือตรี อนุชา เอี่ยมสุโร ผู้บัญชาการกองเรือยามฝั่ง กองเรือยุทธการ กำลังพลประจำเรือ และแขกผู้มีเกียรติให้การต้อนรับกองทัพเรือได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือ พ.ศ.2551 – 2560 ที่ได้กำหนดความต้องการเรือตรวจการชายฝั่ง เพื่อใช้ในภารกิจต่างๆ โดยดำเนินโครงการจัดหาเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง กองทัพเรือ จำนวน 20 ลำ เพื่อทดแทนเรือตรวจการณ์ชายฝั่งเดิม ที่ใช้ราชการมาเป็นเวลานาน

     คุณลักษณะของเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ชุดเรือ ต.265 – ต.269 มีขีดความสามารถปฏิบัติการรบ (Combat Capabilities) โดยสามารถปฏิบัติภารกิจได้ครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการบริเวณชายฝั่งในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน สามารถตรวจจับ ติดตามและพิสูจน์ทราบเป้าผิวน้ำ สามารถป้องกันตนเองจากเรือผิวน้ำและอากาศยานข้าศึกได้ตามสมรรถนะของอาวุธประจำเรือ สามารถปฏิบัติการทางเรืออย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องรับการส่งกำลังบำรุงเพิ่มเติมได้ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง สามารถปฏิบัติงานได้ในสภาพทะเล ไม่น้อยกว่า Sea State 2 สามารถตรวจค้นเรือที่ต้องสงสัย ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ และมีความสามารถการทรงตัวที่ดีในการบังคับเรือและบังคับเลี้ยวในการปฏิบัติงานที่ความเร็วสูง (Maneuverability)

     คุณลักษณะทั่วไป (Ship System Performance) ระวางขับน้ำเต็มที่โดยประมาณ 45 ตัน ขนาดของเรือ ความยาวตลอดลำ 21.40 เมตร ความกว้างสูงสุดของเรือ 5.56 เมตร ความลึกของเรือ (Molded Depth) 3.15 เมตร กินน้ำลึกตัวเรือ (Molded Draught) 1.05 เมตร ความเร็วสูงสุดต่อเนื่อง ที่ระวางขับน้ำเต็มที่ไม่น้อยกว่า 30 นอต กำลังพลประจำเรือ 9 นาย สามารถปฏิบัติงานในทะเลได้ต่อเนื่องได้ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง

     อาวุธประจำเรือ อาวุธปืนหลัก ปืนกลขนาด 20 มิลลิเมตร จำนวน 1 กระบอก ติดตั้งบริเวณหัวเรือ อาวุธปืนรอง ปืนกลขนาด .50 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก เครื่องยิงลูกระเบิด 81 มิลลิเมตร ร่วมแกน จำนวน 1 กระบอก ติดตั้งบริเวณท้ายเรือ

นายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แสดงความยินดีกับนักกีฬาเรือใบไทยที่คว้ารางวัลชนะเลิศ การแข่งขันเรือใบประเภท Optimist รายการ Trofeo Marco Rizzottl Optimist Team Racing 2018

     เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะนายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แสดงความยินดีกับทีมนักกีฬาเรือใบไทย ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันเรือใบรายการ Trofeo Marco Rizzottl Optimist Team Racing 2018 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 – 10 มิถุนายน 2561 ณ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี

     สำหรับการแข่งขันเรือใบนานาชาติ รายการ Trofeo Marco Rizzottl Optimist Team Racing 2018 เป็นการแข่งขันเรือใบ Optimist ประเภททีม มีนักกีฬาจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมจำนวน 19 ทีม จาก 15 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นประเทศทางยุโรป และในเอเชียมีประเทศไทยเพียงชาติเดียวที่เข้าร่วมการแข่งขัน โดยทีมชาติไทยประกอบด้วย เด็กชายพันวา บุนนาค, เด็กชายเจตวีร์ ยงยืนนาน, เด็กหญิงชาลิสา กฤตนัย, หม่อมหลวงเวฆา ภาณุพันธ์ และ เด็กชายบวรนันท์ ชันรัมย์ มีผู้ฝึกสอนคือ เรือเอก สมเกียรติ พูนพัฒน์ และผู้ควบคุมทีมคือ นาวาโท ทวียศ รัตนศีล โดยรูปแบบการแข่งขันจัดให้ทุกทีมได้พบกัน ซึ่งผลการแข่งขันปรากฎว่า ทีมนักกีฬาเรือใบเยาวชนไทย ได้รับรางวัลชนะเลิศมีผลการแข่งชนะมากกว่าทุกประเทศ และชนะทุกทีมที่พบกัน

     ซึ่งการคว้ารางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ ทำให้นักกีฬาเรือใบ Optimist ของไทย ได้รับประสบการณ์ และได้พัฒนาศักยภาพจากการแข่งขันกับนักกีฬาต่างประเทศ โดยเฉพาะนักกีฬาทางยุโรป และสหรัฐอเมริกา ที่เคยเป็นแชมป์ Optimist และเป็นแชมป์รายการนี้ครั้งที่แล้ว ทางสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยฯ เตรียมส่งนักกีฬาเรือใบ Optimist เข้าร่วมการแข่งขัน Asian Sailing Championships 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย และรายการแข่งขันระดับโลก 2018 Optimist World Championship ที่ประเทศไซปรัสต่อไป

การแข่งขันเรือใบ ‘เคปพันวา โฮเทล ภูเก็ต เรซวีค 2018

     โรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต ในเครือเคป & แคนทารี โฮเทลส์ และบริษัท มีเดีย บิซิเนส เซอร์วิส จำกัด เจ้าของสิทธิ์ในการจัดการแข่งขัน ร่วมจัดงาน เคปพันวา โฮเทล ภูเก็ต เรซวีค 2018 การแข่งขันเรือใบระดับภูมิภาคชั้นแนวหน้า ซึ่งปีนี้เป็นการจัดการแข่งขันครั้งที่ 15 โดยจะจัดงานที่โรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต และ โรงแรมแคนทารี เบย์ ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 18- 22 ก.ค. 2561 การแข่งขันทุกๆ ปีที่ผ่านมา รายการนี้ถือเป็นการแข่งขันที่มีผู้เข้าแข่งขันจากทั่วโลก มีเรือทั้งประเภทลำเรือเดียว (Monohulls) และประเภทหลายลำเรือ (Multihulls) เข้าร่วมจำนวนมาก

พิธีวางศิลาฤกษ์อาคารอเนกประสงค์พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ (แห่งใหม่)

     พลเรือเอก นวพล ดำรงพงศ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารอเนกประสงค์พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ (แห่งใหม่) ณ บริเวณพื้นที่โรงจอดรถกองเรือลำน้ำ กองเรือยุทธการ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

     พิพิธภัณฑ์ของกองทัพเรือได้เริ่มมีขึ้น เมื่อ พ.ศ.2485 ซึ่งเริ่มแรกเป็นเพียงขั้นตอนรวบรวมวัตถุพิพิธภัณฑ์ ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี จากที่ต่างๆ ในกองทัพเรือ นำมาสงวนรักษาไว้ ที่อาคารราชนาวิกสภาชั้นล่าง ตรงข้ามท่าราชวรดิฐ ต่อมาในปี พ.ศ.2501 ได้ย้ายพิพิธภัณฑ์ทหารเรือไปอยู่ที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า จนกระทั่ง พ.ศ.2515 ได้ย้ายพิพิธภัณฑ์ทหารเรือไปอยู่ที่ ตำบลปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ จนถึงปัจจุบัน แต่เนื่องจากการจัดแสดงนิทรรศการมีสภาพเก่าและอยู่ไกลจากกองบัญชาการกองทัพเรือ ประกอบกับมีโครงการย้ายกองเรือลำน้ำ กองเรือยุทธการ ไปยังพื้นที่บางนา โดยพื้นที่กองเรือลำน้ำเดิมมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ กองทัพเรือจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญนี้ และได้ทำโครงการย้ายพิพิธภัณฑ์ทหารเรือมายังพื้นที่พระนิเวศน์ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง อาคารอเนกประสงค์พิพิธภัณฑ์ทหารเรือแห่งใหม่นี้ เป็นอาคารที่สร้างขึ้นใหม่ใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ สามารถจัดแสดงนิทรรศการ จัดการประชุม และจัดกิจกรรมอื่นๆ ได้ทำให้พิพิธภัณฑ์ทหารเรือแห่งใหม่นี้มีความสมบูรณ์เป็นแหล่งการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทั้งยังเป็นการปลูกจิตสำนึกกำลังพลของกองทัพเรือ ที่ได้ดูตัวอย่างการเสียสละของอดีตบรรพบุรุษทหารเรือในอดีต จึงนับเป็นความมีวิสัยทัศน์ที่ดียิ่งของกองทัพเรือที่ได้ย้ายพิพิธภัณฑ์มาไว้ที่นี่รวมทั้งมีการพัฒนาในด้านต่างๆให้มีความทันสมัย และมีคุณค่าน่าสนใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

เปิดตัว “เรือไฟฟ้าโดยสาร” ลำแรกของประเทศไทย เปิดให้บริการฟรี ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป

     เรือลำนี้จะใช้ในการรับส่งผู้โดยสารในคลองผดุงกรุงเกษม ตั้งแต่ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพงไปยังท่าเรือวัดเทวราชกุญชร ที่ทางกรุงเทพมหานครจะเปิดให้บริการฟรี ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป คุณลักษณะของเรือ ใช้เครื่องยนต์ระบบไฟฟ้า 2 x Torqeedo Cruise 10.0 RXL 10,000 W 48V จากประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตเครื่องยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งในยุโรป ซึ่งใช้ในเรือโดยสารและท่องเที่ยวทั่วโลก ด้านความปลอดภัย แบตเตอรี่เรือ ใช้เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยสูง สามารถกันน้ำได้ เมื่อแรงดังน้ำสูงขึ้นแบตเตอรี่จะทำการตัดระบบ และหากเกิดไฟฟ้ารั่วกระแสไฟฟ้าจะไม่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ เนื่องจากมีกำลังไฟออกมาแค่ 48V

การแข่งขันเรือใบนานาชาติ “Top of The Gulf Regatta” เตรียมจัดยิ่งใหญ่ปีที่ 15 


     เตรียมพบกับสุดยอดการแข่งขันเรือใบนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย Top of the Gulf Regatta 2019 ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 15 พร้อมต้อนรับนักแล่นใบจากทั่วโลก Top of the Gulf Regatta เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกในฐานะเป็นการแข่งขันเรือใบที่มีเรือเข้าร่วมการแข่งขันอย่างหลากหลายประเภท แต่ละปีจะมีเรือเข้าร่วมชิงชัยเป็นจำนวนมาก โดยการแข่งขันครั้งนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 เมษายน ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ณ โอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ พัทยา จ.ชลบุรี

เปิดบริการ เส้นทางเดินเรือใหม่ “บางหว้า-ท่าช้าง” ฟรี 6 เดือน

     เพิ่มทางเลือกในการเดินทาง กทม. และกรมเจ้าท่า เปิดทดลองเส้นทางเดินเรือใหม่ จอดรับส่ง 5 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือบางหว้า ท่าเรือวัดอินทาราม ท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรือราชินี และท่าเรือท่าช้าง บริการฟรี 6 เดือน

กรุงเทพมหานคร และกรมเจ้าท่า เปิดทดลองเดินเรือเส้นทางใหม่ ตั้งแต่ท่าเรือบางหว้า (คลองภาษีเจริญ) ถึงท่าเรือท่าช้าง (แม่น้ำเจ้าพระยา) โดยไม่เก็บค่าโดยสาร เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อเชื่อมโยงระบบการคมนาคมขนส่ง “ล้อ ราง เรือ” และเพิ่มทางเลือกในการเดินทางของประชาชนในจุดที่ไม่มีเอกชนให้บริการ โดยให้บริการรวม 4 เส้นทาง คือ ท่าเรือบางหว้า-ท่าช้าง ท่าเรือหัวลำโพง-วัดเทวราชกุญชร ท่าเรือวัดศรีบุญเรือง – ห้างสรรพสินค้า Paseo และ ท่าเรือบางหว้า – วัดกำแพง

สำหรับเส้นทางใหม่ที่เปิดให้บริการวันนี้ เริ่มต้นจากท่าเรือบางหว้า บริเวณจุดเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า BTS บางหว้า ไปตามคลองภาษีเจริญ แยกขวาเข้าคลองบางกอกใหญ่ ออกแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจอดรับส่งผู้โดยสารที่ท่าเรือ 5 แห่ง คือ ท่าเรือบางหว้า ท่าเรือวัดอินทาราม ท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรือราชินี และท่าเรือท่าช้าง

ส่วนเวลาการเดินเรือมี 3 ช่วง คือ

  • เวลา 06.00-09.00 น. ออกต้นทางทุก 30 นาที
  • เวลา 09.00-15.00 น. ออกต้นทางทุก 1 ชั่วโมง
  • เวลา 15.00-19.00 น. ออกต้นทางทุก 60 นาที

สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ จัดงาน “นาวีวิจัย 2019 สร้างนวัตกรรม นำสู่สายการผลิต” (INNOVATION AND BEYOND)

     เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2562 พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานเปิดงาน “นาวีวิจัย 2019 สร้างนวัตกรรม นำสู่สายการผลิต” ณ ห้องประชุมบริพัตร ณ อาคารสถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดยมี พลเรือตรี วรพล ทองปรีชา ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ ให้การต้อนรับ

     สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือจัดให้มีงานนาวีวิจัยเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกาศยกย่องเกียรติคุณนักวิจัยของกองทัพเรือ เปิดโอกาสให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้นำเสนอผลงานวิจัย เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการวิจัยและพัฒนา สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ นำไปสู่สายการผลิตเพื่อเป็น การพึ่งพาตนเองและเป็นการต่อยอดการสร้างสรรค์ผลงานวิจัยที่จะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพเรือและประเทศชาติต่อไป การจัดงาน “นาวีวิจัย 2019 สร้างนวัตกรรม นำสู่สายการผลิต” ภายในงานได้มีพิธีมอบรางวัลเกียรติยศนาวี และการประกาศยกย่อง เกียรติคุณนักวิจัยดีเด่นของกองทัพเรือ โดยในปีนี้ ในส่วนของการมอบรางวัลเกียรติยศนาวี ให้บุคคลดีเด่นของกองทัพเรือ ประจำปี 2562

     ภายในงานได้จัดให้มีกิจกรรมที่สำคัญ คือการสาธิตผลงานวิจัยสนับสนุนการตรวจค้นวัตถุต้องสงสัย การจัดแสดงนิทรรศการผลงานวิจัยของกองทัพเรือ พร้อมทั้งของภาครัฐและเอกชน ได้แก่ กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพบก ศูนย์วิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการบินและอวกาศสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ องค์การมหาชน และ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร กรมแพทย์ทหารบก โดยในส่วนของการจัดแสดงผลงานวิจัยมีผลงานที่น่าสนใจเช่น การสร้างตะเกียงระบบเลนส์หมุนพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้กับประภาคารกระโจมไฟของกรมอุทกศาสตร์ ทุ่นระเบิดทอดประจำที่ปราบเรือดำน้ำแบบล่องหน ระบบควบคุมบังคับบัญชาแบบพกพา ระบบแผนที่อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องฝึกจำลองยุทธ์ NWS การผลิตลูกปืน 30X173มิลลิเมตร ชนิดฝึกและผลงานวิจัยอากาศยานไร้นักบินเพื่อการลาดตระเวนทางทะเลในแบบต่าง ๆ ที่สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือได้สร้างและนำไปสู่การใช้งาน ตามแนวคิดในการจัดงานคือ “นาวีวิจัย 2019 สร้างนวัตกรรมนำสู่สายการผลิต” (INNOVATION AND BEYOND)

เตรียมระเบิดศึกความมันส์การแข่งขันเรือใบนานาชาติ เคปพันวา โฮเทล ภูเก็ต เรซวีค 2019 ครั้งที่ 16

     โรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต ร่วมกับ บริษัท มีเดีย บิซิเนส เซอร์วิส จำกัด เจ้าของสิทธิ์ในการจัดการแข่งขันเรือใบ นานาชาติ จัดการแข่งขัน เคปพันวา โฮเทล ภูเก็ต เรซวีค 2019 (Cape Panwa Hotel Phuket Raceweek 2019) ครั้งที่ 16 ซึ่งถือเป็นรายการที่มีผู้เข้าแข่งขันจากทั่วโลก โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 21 กรกฎาคม 2562 ณ โรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต และ โรงแรมแคนทารี เบย์ ภูเก็ต ท่านที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขัน เคปพันวา โฮเทล ภูเก็ต เรซวีค 2019 สามารถลงทะเบียนออนไลน์ และจองห้องพักสุดหรู พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ณ โรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต และ โรงแรมแคนทารี เบย์ ภูเก็ต

Cape Panwa Hotel Phuket Raceweek 2019

     การแข่งขันเรือใบนานาชาติ เคปพันวา โฮเทล ภูเก็ต เรซวีค จัดยิ่งใหญ่เป็นปีที่ 16 โดยการแข่งขันมีขึ้นระหว่างวันที่ 17-21 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต
การแข่งขันแบ่งเป็น 6 ประเภท คือ ไออาซี​ซีโร่, ไออาซี 1, ไออาซี 2, ครูซซิ่ง, มัลติฮัลล์ เรซซิ่ง และไฟเออร์ฟลาย 850 (Firefly 850 Sports One Design) รวมเรือที่เข้าแข่งขันทั้งหมด
32 ลำ มีนักแล่นเรือใบกว่า 450 คน จากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก

     การแข่งขันในวันสุดท้ายมีกระแสลมกำลังดีในช่วงเช้าถึงบ่าย นับว่าเป็นการปิดฉากลงอย่างสวยงามของเคปพันวา โฮเทล ภูเก็ต เรซวีค 2019 แม้ว่าตลอดช่วงสัปดาห์ที่มีการแข่งขัน
นักแล่นใบจะต้องพบกับความท้าทายในเรื่องของสภาพอากาศที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่องก็ตาม

67217761_2267225406665229_5853391596623495168_o
67138649_2267225646665205_2053347486814175232_o
67155502_2267226146665155_1764244931653664768_o

สำหรับพิธีมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะในแต่ละประเภท ได้รับเกียรติจาก พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ นายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขันและมอบรางวัล

สรุปผลการแข่งขันดังนี้

  • สำหรับการแข่งขันประเภทไฟเออร์ไฟล์ 850 (Firefly 850) ทีม ทวิน ชาร์คส์ ได้ครองแชมป์นานถึง 7 ปีซ้อน
  • ทีมฟีนิกซ์ สัญชาติเดนมาร์ก สามารถรักษามาตรฐานของทีมคว้าแชมป์ติดต่อกันถึง 4 ปีซ้อน ส่วนในปีนี้ได้แชมป์ประเภทไออาซี ทู
  • ในส่วนของทีมฮอลลีวู้ด หนึ่งในทีมตัวเต็งก็สามารถครองแชมป์ติดต่อกัน 3 ปี ในปีนี้ได้แชมป์ประเภท ไออาซี ซีโร่

ประเภท ไออาซี ซีโร่  (IRC Zero Class)

  1. ทีม ฮอลลีวู้ด Team Hollywood ออสเตรเลีย
  2. อีสมารีน อิเมจิน East Marine Emagine ออสเตรเลีย
  3. อะควารี่ AquarII ออสเตรเลีย

ประเภท ไออาซี วัน  (IRC I Class)

  1. อีสมารีน อิเมจิน East Marine Emagine ออสเตรเลีย
  2. อะควารี่ AquarII ออสเตรเลีย
  3. เมกะซิป Megazip รัสเซีย

ประเภท ไออาซี ทู (IRC II Class)

  1. ฟีนิกซ์ Phoenix นีลส์ เดเกินคอลว์ Neils Degenkolw เดนมาร์ก
  2. ซิดนีย์ พรีเมียร์ คาร์ทติ้ง ปาร์ค Sydney Premier Karting Park ออสเตรเลีย
  3. ดราก้อน The Dragon ไซมอน โอลิเวีย Simon Oliver ออสเตรเลีย

ประเภทครูซซิ่ง โมโนฮัลล์ (Cruising Monohull Class)

  1. เวนเจอร์ Venture ออสเตรเลีย
  2. โบ เอสปรีส์ BeauX Esprits ออสเตรเลีย
  3. เลดี้ บั้บบลี่ Lady Bubbly ออสเตรเลีย

ประเภท เรือมัลติฮัลล์ เรซซิ่ง (Multihull Racing)

  1. แฟนทอม ไฟว์ Phantom V ออสเตรเลีย
  2. บอนซ่า Bonza อังกฤษ
  3. ฟุกาซี่ Fugazi ออสเตรเลีย

ประเภท ไฟเออร์ไฟล์ 850 (Firefly 850)

  1. ทวิน ชาร์คส์ Twin Sharks อังกฤษ
  2. วูดู Voodoo เยอรมัน
  3. เซิร์ฟ พาโทร Surf Patrol ออสเตรเลีย
67345059_2267225339998569_2603352211236847616_o
67355774_2267226283331808_5640395655789674496_n
67490057_2267225166665253_6097610841597673472_o